ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงกล่าวว่าเศรษฐกิจจีนสามารถขยายตัวได้ประมาณ 7% ต่อปีใน 5 ปีข้างหน้า แต่ยังมีปัญหาความไม่แน่นอนคอยอยู่รวมทั้งการค้าโลกที่ซบเซาและภาระหนี้ที่มีสูงภายในประเทศจีน
สำนักข่าวซินหัวรายงานเมื่อวันอังคารโดยอ้างคำพูดของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงว่าเศรษฐกิจจีนสามารถขยายตัวได้ประมาณ 7% ต่อปีใน 5 ปีข้างหน้า แต่ยังมีปัญหาความไม่แน่นอนคอยอยู่ข้างหน้ารวมทั้งความซบเซาของการค้าโลกและภาระหนี้ที่มีสูงภายในประเทศจีน
ซินหัวอ้างประธานาธิบดีสีที่พูดว่าอัตราการขยายตัวของ GDP จีนจะต้องเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 6.5% ต่อปีใน 5 ปีข้างหน้า ถ้าจีนจะสามารถบรรลุเป้าในการทำให้ขนาดของเศรษฐกิจและรายได้ของประชากรต่อหัวเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัวภายในปี 2020
ตัวเลข GDP จีนโตเพียง 6.9% ต่อปีในไตรมาส 3 ของปีนี้ ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงวิกฤตการเงินโลกในปี 2007-2008 เนื่องจากการลงทุนที่ลดลงซึ่งได้ทำให้ธนาคารกลางของจีนต้องปรับลดดอกเบี้ยและสัดส่วนการกันสำรองเงินสดของธนาคารพาณิชย์ลงหลายรอบในปีที่ผ่านมา
ประธานาธิบดีสีกล่าวว่าถ้าจะให้ตัวเลข GDP โต 1 เท่าตัวตามเป้า การขยายตัวเฉลี่ยของแต่ละปีต้องมีอย่างน้อยมากกว่า 6.5% แต่เขากล่าวว่าสภาพการค้าของโลกยังคงจะซบเซาต่อไปในขณะที่การบริโภคและการลงทุนในจีนคงจะชะลอตัวต่อเนื่อง นอกจากนั้นยังมีปัจจัยเสี่ยงจากภาระหนี้ในประเทศที่มีอยู่ในระดับสูง
ผู้นำจีนกล่าวกับซินหัวว่าการพัฒนาเศรษฐกิจจีนใน 5 ปีข้างหน้าไม่ควรเน้นแต่เฉพาะอัตราการขยายตัว แต่ประเทศควรจะสนใจในเรื่องคุณภาพด้วย โดยเขาพยายามจะชี้แจงแผนนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม 5 ปีฉบับที่ 13 ของจีนซึ่งจะครอบคลุมช่วง 2016-2020
ผู้นำคนต่างๆของจีนได้พูดถึงนโยบาย “new normal” ที่จะเห็นตัวเลข GDP ขยายตัวช้าลงในขณะที่ประเทศปรับระบบเศรษฐกิจให้มาเน้นการบริโภคภายในประเทศให้มากขึ้น
นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงกล่าวกับสถานีวิทยุแห่งหนึ่งในวันอังคารว่าเศรษฐกิจต้องโตเฉลี่ยอย่างน้อย 6.53% ต่อปีใน 5 ปีข้างหน้า พร้อมกับเสริมว่ามาตรการรักษาสิ่งแวดล้อมที่รัฐบาลใช้มีส่วนทำให้ GDP โตช้าลง
นักลงทุนยังกำลังคอยประกาศของทางการเกี่ยวกับเป้าการขยายตัวของเศรษฐกิจใน 5 ปีข้างหน้า เนื่องจากใบแถลงการณ์หลังการประชุมผู้นำของพรรคเพียงแต่ระบุว่าจีนตั้งใจจะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวในอัตราปานกลางถึงสูง เพื่อช่วยให้ประเทศบรรลุเป้าของการทำให้ GDP และรายได้เฉลี่ยต่อหัวของประชากรเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวภายในปี 2020
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสำนักวางแผนนโยบายเศรษฐกิจคนหนึ่งแถลงข่าวว่ารัฐบาลจะให้ความสนใจเพิ่มขึ้นต่อปัญหาการจ้างงาน รายได้ของประชาชน และราคาสินค้าบริโภคมากกว่าตัวเลขการขยายตัวของเศรษฐกิจ